เราเริ่มเดินทางวันที่ 20 ธค 67 ด้วยสายการบิน airasiaX เที่ยวบินที่ XJ600บินตรงสนามบินนาริตะ เราเริ่มออกจากบ้านมาสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึงสนามบินดอนเมือง 6 โมง 24 เดินเล่นรอเวลาไกด์รอเวลาเช็คอินตอน 2 ทุ่ม ผ่านตม. เข้ามาข้างเล่นเดินเล่น รอขึ้นเครื่องตอน 23.35 ต้องบอกเลยว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ มีร้านอาหารดัง ๆ ให้เราเลือกกินเพียบขึ้นไปชั้น 4 มี เบอรเกอรคิง , ปังชา , แมคโดนัลด์ , เคเอฟซี และอื่นอีกเพียบ ของคาวของหวานครบครับ เซเว่นหายากหน่อย เซเว่นจะอยู่ชั้น 2 ร้านเล็ก ๆ ผมหลง ผมเหนื่อย เดินวนไปวนมาหาเซเว่นจนปวดขาเลยครับ พออิ่มท้องเสร็จก็ได้เวลาขึ้นอีก เครื่องดีเลย์ไปเกือบ 20 นาที


มาญี่ปุ่นรอบนี้ นอนหลับบนเครื่องได้ มีหลับ ๆ ตื่น ๆ บ้าง และได้กินข้าวบนเครื่องตอนตี 4 ตามเวลาประเทศไทย ถึงสนามบินนาริตะตอน 8 โมงเช้าประเทศญี่ปุ่น ล้างหน้าแปรงฟันพร้อมเดินทางกันต่อ เดินทางไปยัง ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะฮะจิมัง ขึ้นชื่อเรื่องขอการงาน ไกด์พร้อมแนะนำวิธีไหว้ศาลเจ้าที่ถูกต้อง ขอพรกันเสร็จเดินช็อปปิ้งหาของกินอร่อยที่ถนนคนเดินโคมาจิโดริ ของกินร้านเด็ดจากไกด์ กุ้งมายองเยส ข้าวมื้อกลางวันแวะซื้อของกิน lawson หลวงพ่อโตไดบุทสึ ตามประวัติหลวงพ่อองคนี้ได้ประดิษฐานอยู่ภายในโถง จนศตวรรษที่ 14 และ15 โถงใหญ่ได้เกิดพังลง เพราะด้วยแผ่นดินไหว พายุใต้ฝุ่น และสึนามิ องคพระไม่เกิดความเสียหาย

จุดไฮไลทของวันที่สาม คือลานสกี ฟูจิเท็น สโนว์ รีสอร์ท กินมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จพอมีเวลาไปเดินถ่ายรูปวิวทะเลสาบยะมะนะกะโก๊ะ เห็นวิวฟูจิเต็มตาลูกใหญ่มาก และเดินทางไป 10 นาที วิ่งเลียบทะเลสาบไปต่อที่หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai พี่ไกดพาไปเติมน้ำจากบ่อของหมู่บ้าน ลองดื่มดูแล้วรู้สึกสดชื่นเย็นธรรมชาติและที่หมู่บ้านนี้เราก็ได้เห็นวิวภูเขาไฟอีกรอบแบบเต็ม ๆ ตา ข้างหน้าเป็นบ่อน้ำวิวหลังเป็นฟูจิ วิวสวยมากครับ มีร้านช็อปปิ้งนิดหน่อย ได้หมวกแก๊ป กับ magnet พาไปเรียนชงชาแบบญี่ปุ่นกับเช็นเช จากสถาบันชงชา ได้ห้องวิวเห็นภุเขาไฟฟูจิ เดินชมช็อปปิ้งดิวบี้ฟรี เดินทางต่อไปที่ ลานสกึ ฟูจิเท็น เล่นถาดสไสดของเด็ก
ไฮไลท์ของทริปนี้คือ การมาโตเกียวต้องได้มาช็อปปิ้งย่านจินจุกุ ตอนเช้ากินข้าวที่โรงแรมเสร็จ เราออกเดินมายังวันเซ็นโซจิ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าวัดอาซากุซะหรือวัดโคมแดง จากประวัติแล้วพี่ม่อน (พี่หัวหน้าไกดของเราในครั้งนี้) ได้เล่าประงัติให้เราฟังบนรถว่า พบว่าพี่น้องชาวประมงได้เดินเรือออกไปหาปลาที่แม่น้ำซูมิดะ ทุกๆครั้งที่ได้จับปลาขึ้นมาจะพบก้อนหินกรวดขนาดเล็กขึ้นมาได้ทุกครั้ง จึงได้โยนกลับลงไปในทะลอีก จนครั้งนี้จะจับปลาแต่ได้ก้อนหินกรวดอีกครั้งจึงนำมาดูจนพบรูปลักษณะเป็นเจ้าแม่กวมอิม มาโปรดสัตว์ จึงนำมาให้หัวหน้าหมู่บ้าน นำมาตั้งอยู่ใน ตั้งแต่นั้นมาจึงเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวบ้านแถวนี้
